เรื่องย่อ : The Godfather เดอะ ก็อดฟาเธอร์
ย้อนกลับไปในปี 1940 ในสหรัฐอเมริกา ครอบครัวมาเฟียอิตาลีที่ทรงอิทธิพลและมีอำนาจเหนือกว่าตำรวจ นักการเมือง และผู้พิพากษา นั่นคือ ตระกูลคอร์ลีโอเน โดยมีผู้นำสูงสุดอย่าง ‘ดอน วีโต คอร์ลีโอเน’ ที่เป็นทั้งหัวหน้าครอบครัวและเป็นที่เคารพของทุกคนในครอบครัว และได้รับฉายาว่า ก็อดฟาเธอร์ และแล้ววันหนึ่งจุดพลิกผันก็มาถึง เมื่อตระกูลแทตทาเลียมาเจรจาขอความคุ้มครองธุรกิจยาเสพติดจากวีโต แต่เขานั้นปฏิเสธที่จะช่วยเหลือจนกลายเป็นสงครามมาเฟียที่เป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียอันน่าเศร้า และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตระกูลคอร์ลีโอเน
รีวิว : The Godfather เดอะ ก็อดฟาเธอร์
The Godfather คือภาพยนตร์แนวอาชญากรรมที่สร้างจากนวนิยายของ มาริโอ พูโซ ลังจากที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของสหรัฐฯ ก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เพราะได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์หลายสถาบันและผลตอบรับในแง่บวกจากผู้ชมทั่วโลก และยังสามารถสร้างรายได้ถล่มทลายจนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในปี ค.ศ. 1972 และเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในเวลานั้น The Godfather กลายเป็นไอคอนนิคของวงการภาพยนตร์ เช่น ฉากที่ดอน วีโต เล่นกับแมวบนตักในห้องทำงานตอนต้นเรื่อง หรือแม้แต่บทพูดของตัวละครหนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นวลีอมตะที่ผู้ชมยังคงจดจำได้เสมอ ตัวอย่างเช่น “ฉันจะยื่นข้อเสนอที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้” “ผู้ชายที่ไม่ให้เวลากับครอบครัว ไม่มีวันเป็นลูกผู้ชาย” “อย่าได้เข้าข้างใครก็ตามที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับครอบครัว”
อีกสิ่งหนึ่งที่ The Godfather ทิ้งไว้คือ วงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดมีหนังแนวมาเฟีย แก๊งสเตอร์มากขึ้นซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อยที่ได้รับอิทธิพลมาจาก The Godfather ทั้งสิ้น อาทิเช่น Goodfellas (1990) ซึ่งเป็นเรื่องราวของกลุ่มมาเฟียอิตาลีในอเมริกามีทั้งจี้ปล้น การทรยศหักหลัง พร้อมด้วยเหล้า ยา และผู้หญิง Scarface (1983) หนังที่เล่าชีวิตของ โทนี่ มอนทานา ผู้อพยพชาวคิวบาที่ต่อมาเขากลายเป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดในสหรัฐฯ หากเขยิบมาหน่อยคงไม่พูดถึงหนังมาเฟียที่ขนทัพนักแสดงชั้นยอดมาประชันบทบาทกัน นั่นคือเรื่อง The Irishman (2019) โดยเส้นเรื่องหลักจะเล่าผ่าน แฟรงค์ ชีแรน ชาวไอริชที่เคยรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีอาชีพเป็นพนักงานขับรถลทำพาร์ทไทม์ทาสีบ้าน (รับจ้างฆ่า) ตัวละครนี้ก็มีความสัมพันธ์ ความใกล้ชิดกับกลุ่มมาเฟียและผู้มีอิทธิพลในช่วงปี 50 ถึง 60
การที่ฮอลลีวูดมีหนังมาเฟียที่ยอดเยี่ยมที่สุดขนาดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หาก ‘ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา’ ไม่มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะก่อนจะเริ่มโปรเจกต์หนังเรื่องนี้เขาต้องพบกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ช่วงเวลาในหนังที่ทางพาราเมาต์ พิกเจอส์ต้องการให้เป็นปี 70 เพื่อประหยัดงบ แต่คอปโปลาต้องการให้เป็นปี 40 ตามนิยายต้นฉบับ การยืนกรานของคอปโปลาที่จะเอา มาร์ลอน แบรนโด มาแสดงบท ดอน วีโต คอร์ลีโอเน และ อัล ปาชิโน มารับบท ไมเคิล คอร์ลีโอเนนอกจากระยะเวลาการถ่ายทำที่มีค่อนข้างน้อย มีกลุ่มมาเฟียที่มาขัดขวางเพราะไม่พอใจที่จะสร้างหนังเกี่ยวกับมาเฟียอิตาลี และการเกือบจะโดนสตูดิโอปลดจากตำแหน่งผู้กำกับออกไป แต่เพราะโชคชะตาที่กำหนดมา และความไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคของคอปโปลา เขาจึงสามารถถ่ายทำ The Godfather ได้สำเร็จ และสร้างตำนานมาจวบจนถึงปัจจุบันนี้ ใครที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้สุดยอดขนาดไหน ก็ขอฝากเรื่อง The Godfather เดอะ ก็อดฟาเธอร์ (1972) หนังอเมริกันที่เป็นตำนานทั้งตัวหนังและเบื้องหลัง รับรองว่าดูแล้วต้องชอบแน่นอน
5 เหตุผลที่ควรดู The Godfather Trilogy สักครั้งในชีวิตนี้
1.นี่คือหนังมาเฟียที่ดีที่สุดที่เคยสร้างมา
2.บรรดาตัวละครที่มีเสน่ห์และน่าจดจำ
3.ไม่เคยมีใครคาดฝันว่าหนังจะฮิต
4.งานถ่ายภาพสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกภายในจิตใจตัวละคร
5.The Godfather มีประโยคอมตะมากมาย
ชื่อเรื่อง : The Godfather เดอะ ก็อดฟาเธอร์
ประเภท : อาชญากรรม | ดราม่า
ผู้กำกับ : ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา
นักแสดงนำ : มาร์ลอน แบรนโด , อัล ปาชิโน, เจมส์ คาน
จำนวน : 175 นาที