จดหมายเหตุจากไอร์แลนด์เหนือ

“Belfast” หนังดราม่าฟีลดี ที่ติดผนึกความเป็นชาวไอร์แลนด์เหนือเอาไว้อย่างชัดเจน หนังโทนขาว-ดำเรื่องเยี่ยมที่ได้ติดโผเข้าชิงออสการ์ในปีนี้ถึง 7 สาขา รวมทั้งได้ชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ด้วย หนังที่มาพร้อมกับการอิงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองท่าสำคัญแห่งนี้ กลั่นกรองออกมาเป็นท่วงทำนองที่อิ่มเอมใจไปตลอดชั่วโมงกว่า ๆ ของหนัง เรื่องย่อ : BELFAST จดหมายเหตุจากไอร์แลนด์เหนือ เรื่องราวสเกี่ยวกับวัยเด็กของเด็กชายคนหนึ่งระหว่างช่วงเวลาที่สับสนในช่วงปลายทศวรรษที่ 60s ในเมืองเบลฟาสต์ เด็กชายวัยเก้าขวบจะต้องเดินไปตามเส้นทางสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ท่ามกลางโลกที่พลิกผันอย่างฉับพลัน ชุมชนที่มั่นคงและอบอุ่นของเขาและทุกสิ่งที่เขาคิดว่าเขารู้จักเกี่ยวกับชีวิตถูกเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล แต่ความสุข เสียงหัวเราะ ดนตรีและเวทมนตร์มหัศจรรย์ของภาพยนตร์ก็ยังคงอยู่ รีวิว : BELFAST จดหมายเหตุจากไอร์แลนด์เหนือ บทหนังที่ถูกเขียนกรองออกมาโดยฝีมือของ เคนเนธ บรานาห์ นั้น คือว่าค่อนข้างคมคายในระดับที่พอใช้ได้เลยทีเดียว เขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราวและแนวคิดในลักษณะสำนึกรักบ้านเกิดในลักษณะที่ไม่เลี่ยนและเอียนเกินไป โดยใช้การเล่าเรื่องผ่านมุมมองของคน 3 รุ่นหลัก ๆ ไม่ว่าจะรุ่นเก๋าที่อยู่ในพื้นที่ดั้งเดิม คนรุ่นก่อร่างสร้างตัวที่ยังโหยหาอนาคตที่มั่นคง และ คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเกิดแค่เมื่อวานแต่รับรู้ถึงแวดล้อมต่าง ๆ ได้ชัดเจน Belfast จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสายรางวัลในปีนี้ที่เลือกถ่ายทอดเรื่องราวในรูปแบบหนังขาว-ดำ อันที่จริงหนังก็ไม่ได้โมโนโทนไปตลอดทั้งเรื่อง ยังมีการใช้ลูกเล่นใช้สีสันล็ก ๆ น้อยอ่านต่อ

พลิกน้ำเน่าคดีฉาวโลก

ช่างเป็นหนังที่เนื้อหาเหมาะเจาะกับสถานการณ์ที่คนกรุงและคนไทยกำลังเผชิญหน้ากันอยู่จริงๆ ในสภาวะที่มลพิษคืบคลานเข้าครองเมือง มีหนังเล็กๆ เรื่องหนึ่งที่น่าจะเป็นหนังหวังรางวัลอีกเรื่อง แต่กลับถูกเมินใส่แทบจะทุกเวที หนังที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมกับคดีบันลือโลก “Dark Waters พลิกน้ำเน่าคดีฉาวโลก” เป็นหนังที่ดูเคร่งขรึม กับเนื้อหาหนักอึ้ง แต่ก็ทำให้คนดูสะอื้นจุกอก กับบทสรุปที่แสนจะสงสารพวกมนุษย์ตาดำๆ ด้วยกันเอง เรื่องย่อ : Dark Waters พลิกน้ำเน่าคดีฉาวโลก เรื่องราวความกล้าหาญของทนายความด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมขององค์กร โรเบิร์ต บิลอตตา (มาร์ก รัฟฟาโล) ที่จะเปิดเผยความลับด้านมืด ซึ่งซ่อนอยู่ในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งของโลก เกี่ยวข้องกับสารเคมีอันตรายถึงชีวิตมานานหลายทศวรรษ และเขายังพร้อมที่นำความยุติธรรมมาสู่ชุมชน ถึงแม้จะต้องเสี่ยงต่ออาชีพการงาน และครอบครัวของเขา โรเบิร์ต บิลอตตา (มาร์ก รัฟฟาโล) เพิ่งเป็นหุ้นส่วนที่สำนักงานกฎหมายอันทรงเกียรติ เขาพบว่าตัวเองมีความขัดแย้งหลังจากที่ได้รับการติดต่อจากเกษตรกรในเวสต์เวอร์จิเนีย 2 คน ซึ่งเชื่อว่าโรงงานในท้องถิ่นกำลังทิ้งขยะพิษในพื้นที่ฝังกลบซึ่งทำลายทุ่งนาและฆ่าปศุสัตว์ ด้วยความหวังที่จะเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากหุ้นส่วนผู้ดูแลของเขาในบริษัท เขาจึงได้ยื่นคำร้องซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งใหญ่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทดสอบความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาของเขา ซาราห์ (แอนน์ แฮทธาเวย์) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงชื่อเสียง สุขภาพ และอาชีพการงานของเขาด้วยอ่านต่อ

คาสซานโดร

นี่คือตำนานของนักมวยปล้ำที่โลกได้ทำการจารึกเอาไว้ กับการต่อสู้ที่ต้องแลกมาด้วยน้ำตาและศักดิ์ศรีมากมาย เพื่อให้ได้มาสู่การยอมรับโดยทั่วไป กับชีวิตของนักสู้ชาวรักร่วมเพศใน “Cassandro คาสซานโดร” ที่เป็นการตีแผ่เรื่องราวของเขาที่ถูกเล่าขานต่อกันมากว่า 40 ปี จากเส้นทางจุดเริ่มต้นสู่การความชัยที่อยู่เหนือหัวใจตัวเอง เรื่องย่อ : Cassandro คาสซานโดร เรื่องราวชีวิตของ ซาอุล อาร์เมนดาริซ นักสู้บนสังเวียนมวยปล้ำจากชายแดนอเมริกา-เม็กซิโก ที่มีฉายาในวงการว่า คาสซานโดร ที่ตั้งชื่อตามจากนางเอกละครน้ำเน่า กลายมาเป็นนักสู้สายเอ็กโซติโกชาวรักร่วมเพศที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงระดับประเทศในช่วงยุคปี 1980s ท่ามกลางแสงสีและความสับสนในห้วงยุคที่เต็มไปด้วยบททดสอบ รีวิว : Cassandro คาสซานโดร Cassandro เป็นหนังที่่ค่อนข้างสร้างผลงานออกมาได้โดดเด่นจากเทศกาลหนังซันแดนซ์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากเสียงตอบรับของหนังที่ได้ออกมา นี่คือผลงานการกำกับและร่วมเขียนบทของ “โรเจอร์ รอส วิลเลียมส์” นักสร้างหนังที่กำลังเป็นที่จับตามอง หลังจากที่เคยแจ้งเกิดมาจากหนังสารคดี Life, Animated เมื่อหลายปีก่อน ในแง่งานกำกับถือว่าเขาทำออกมาได้ดีไม่น้อย ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ออกมาได้อย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยข้อความที่ทรงพลัง ผ่านการร้อยเรียงของภาพและงานศิลป์ต่าง ๆ ที่ทำให้หนังชีวประวัติเรื่องนี้เต็มไปด้วยอรรถรสความบันเทิงที่คลุกเคล้าไปกับฉากชีวิตของคนคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยรสชาติมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต โชคดีที่ชีวิตของคาสซานโดรค่อนข้างเต็มไปด้วยสีสันอันฉูดฉาดบนสังเวียนอยู่แล้ว แต่หนังค่อนข้างเบนเข็มมาเน้นชีวิตของคาสซานโดรในอีกมุมมอง โดยเฉพาะในมุมความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่ ที่ทั้งคู่ต่างเลี้ยงดูกันมาเพียงลำพังอ่านต่อ

วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์

Hacksaw Ridge ชื่อไทยว่า วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์ เป็นภาพยนตร์แนวสงคราม-ดราม่าที่ออกฉายในปี 2016 นำแสดงโดย Andrew Garfield ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ Desmond Doss (Garfield) พลทหารอเมริกันที่ปฏิเสธที่จะถืออาวุธและฆ่าคนแม้ว่าเขาจะอยู่ในสงครามโลกครั้งที่สอง แม้เขาจะถูกกลั่นแกล้งและรังเกียจจากเพื่อนทหาร แต่ Doss ก็ยืนกรานตามความเชื่อของเขาและพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นฮีโร่ในสนามรบ เรื่องย่อ : Hacksaw Ridge | วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์ ในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1945 ในตอนที่สงครามภาคพื้นแปซิฟิคกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายที่อันตรายที่สุด และกองกำลังของอเมริกาในโอกินาวาได้เผชิญหน้ากับการสู้รบที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมา มีทหารคนหนึ่งที่โดดเด่นจากพวก เขาคือ เดสมอนด์ ที. ดอสส์ (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) ผู้คัดค้านโดยอ้างมโนธรรม ผู้แม้จะสาบานว่าจะไม่ฆ่าใคร ได้ทำหน้าที่แพทย์สนามที่ไร้อาวุธในกองทัพอย่างกล้าหาญ และเขาก็ได้ช่วยรักษาชีวิตเพื่อนทหารที่บาดเจ็บของเขาหลายสิบชีวิตภายใต้ห่ากระสุน โดยไม่ลั่นกระสุนแม้แต่นัดเดียว ในฐานะหนึ่งในสมาชิกนิกายเซเวนธ์ เดย์ แอดเวนทิสต์ ผู้มีศรัทธาแน่วแน่ ดอสส์ ใช้ชีวิตอยู่ในเวอร์จิเนียในตอนที่เขาอาสาเข้ารับใช้กองทัพอเมริกา เขาไม่สนใจเรื่องการต่อสู้ แต่ ดอสส์อ่านต่อ

วัยรุ่นพันล้าน

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นหนังไทยที่พูดถึงชีวประวัติของคน ๆ หนึ่ง หรือดัดแปลงมาจากเรื่องจริง อาจเพราะด้วยความเสี่ยงในหลาย ๆ ด้านทำให้ทั้งทางค่ายหลีกเลี่ยงที่จะหยิบนำวัตถุดิบเหล่านี้มาสร้าง แต่หากจะให้พูดถึงหนึ่งในหนังแนวชีวประวัติของไทยที่โด่งดังในยุคนี้ ทุกคนคงต้องนึกถึง “Top Secret วัยรุ่นพันล้าน” ขึ้นมาเป็นชื่อแรก ๆ อย่างแน่นอน เพราะหนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นหนังที่ยากที่จะหาหนังไทยแนวนี้ให้ดูบ่อย ๆ แล้ว แต่ข้อคิด และแรงบันดาลใจที่ได้จากหนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นที่ตราตรึงใจผู้ชมหลาย ๆ คนมาจนถึงทุกวันนี้ เรื่องย่อ : Top Secret | วัยรุ่นพันล้าน ภาพยนตร์ไทยที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ได้รับชม และหนังเรื่องนี้ยังสร้างมาจากเค้าโครงชีวิตจริงของเจ้าของธุรกิจสาหร่ายเถ้าแก่น้อย จากชีวิตเด็กมัธยมที่ติดเกมออนไลน์เป็นชีวิตจิตใจ จนมาวันหนึ่งเขาก็ได้พบว่า เกมส์ที่เขาเล่นนั้น สามารถหาเงินให้เขาได้อย่างมากมายหลายแสนบาท ทำให้เขาเกิดจุดประกาย และรักในการหาเงินตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ก็ย่อมเกิดอุปสรรคต่าง ๆ ที่พุ่งมาหาเขา คือช่องทางในการหาเงินคือ ID เกมออนไลน์ของเขาถูกลบไป ทำให้เขาไม่สามารถหาเงินจากเกมส์ได้อีก แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อในปัญหาที่ถาโถมเข้ามา เเละก็ไม่หยุดที่จะหาอาชีพใหม่ที่ทำให้ได้เงิน เขาลองผิดลองถูกไปตลอด จนมาพบกับปัญหาจากการติดหนี้ของทางบ้านหลายสิบล้านบาท แต่เขาก็ไม่ได้ท้อ แต่ยิ่งพยายามตั้งใจที่จะปลดหนี้ให้ได้อ่านต่อ

ออพเพนไฮเมอร์

หนังอีกเรื่องหนึ่งในปีนี้ที่ถูกหมายตาและจับตามองมาตั้งแต่ประกาศสร้าง ผลงานล่าสุดของนักสร้างหนังรุ่นใหม่ที่มีเทคนิคแพรวพราว สร้างความตื่นตาให้กับวงการเสมอ ๆ และนี่คือ “Oppenheimer ออพเพนไฮเมอร์” หนังแนวชีวประวัติเกี่ยวกับสงครามโลกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียดและทฤษฎีศาสตร์ฟิสิกส์ที่เข้มข้นแน่นจอ เรื่องย่อ : Oppenheimer | ออพเพนไฮเมอร์ Oppenheimer เรื่องราวชีวิตของ เจ. ออพเพนไฮเมอร์ ชายผู้มีปัญหาในตัวเองมากมาย แต่ก็ถูกมองข้ามไปด้วยความปราดเปรื่องของตัวเขา เมื่อเขาถูกขอความช่วยเหลือให้หาหนทางยุติสงครามโลกครั้งที่สอง เขาก็ชี้ไปที่ความหวังเดียวเท่านั้น คือ อาวุธปรมาณูที่มีพลังทำลายล้างรุนแรงจนสามารถยับยั้งไม่ให้ทุกฝ่ายต่อสู้กันต่อไปได้อีก แน่นอนว่าในหนังเรื่องนี้ คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็ยังคงรับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังกับ “ไค เบิร์ด” นักเขียนหน้าใหม่ ที่อ้างอิงมาจากงานเขียนระดับตำนานของ “มาร์ติน เชอร์วิน” ผู้ที่หยิบเอาตำนานของออพเพนไฮเมอร์นำมาร้อยเรียงเขึยนเป็นสิ่งพิมพ์นั่นเอง และนี่ก็ยังจัดได้ว่าเป็นงานบทหนังที่แสนคมคามอีกครั้ง ตามสไตล์เสด็จพ่อโนแลน บทที่เต็มไปด้วยมิติและชั้นเชิงมากมาย ยืนอยู่ที่ทฤษฎีที่ท้าทายคนดูไปตลอดทั้ง 3 ชั่วโมง แต่เอาจริง ๆ หนังอย่าง Oppenheimer คงจะไม่เหมาะกับทุกคน ถึงมันจะเป็นหนังที่เข้าข่ายยอดเยี่ยมอีกเรื่องของปีนี้ แต่มันไม่ใช่หนังที่เหมาะกับการมาแสวงหาความบันเทิงอะไร เพราะเรื่องนี้มาด้วยโทนของความขึงขัง จริงจัง และดุเดือดอ่านต่อ

จากผีน้อย..สู่เจ้าของตำนานแท่งข้าวโพดกรอบ

ทุก ๆ สิ่งมักมีเรื่องราวของมัน แม้กระทั่งขนมชิ้นที่คุณกำลังหยิบใส่ปากตัวเอง มันก็มีสตอรี่ในตัวเองที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อย และนี่ก็คือหนึ่งในตำนานอันทรงพลังและเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ จากโนบอดี้ที่ไม่มีใครรู้จักสู่ผู้บริหารที่ได้รับการยกย่อง กลายมาเป็นหนังเล็ก ๆ รสเผ็ดร้อนที่ชื่อว่า “Flamin’ Hot” ที่มาพร้อมกับขั้นตอนการผลิตแบบคลุกวงในของขนมข้าวโพดอบกรอบที่โลกรู้จักกันดี   เรื่องย่อ : Flamin’ Hot Flamin’ Hot เป็นเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงของ ริชาร์ด มอนตาเนซ หนุ่มเม็กซิกันที่ตั้งต้นชีวิตแบบอาศัยอยู่แบบผิดกฎหมายตามตะเข็บแนวชานแดน รัฐแคลิฟอร์เนีย แม้ว่าจะต้องสุ่มเสี่ยงกับชีวิตหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่เขาก็ตัดสินใจสมัครเข้าเป็นภารโรงที่โรงงานผลิตขนมชื่อดัง แต่ความฝันอันยิ่งใหญ่ของเขาที่อยากจะถีบตัวเองจากจุดต่ำสุดสู่จุดสูงที่สุด แม้ว่าใคร ๆ จะบอกว่าทะเยอทะยานเกินไป แต่เขาก็ทำให้มันเป็น..ตำนาน! ถือว่าแอบเซอร์ไพรส์เบา ๆ อยู่เหมือนกันนะ เพราะหนังเรื่องนี้น่าจะไม่ได้มีแรงดึงดูดความสนใจจากคนดูสักเท่าไหร่ ทั้งหน้าหนังเองหรือนักแสดงนำก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แต่ต้องยกความดีความชอบให้กับสตอรี่ที่มัดใจ จนสามารถนำมากลั่นกรองออกมาเป็นหนังที่เล่าได้สนุกและเพลินไปได้ตลอดทั้งเรื่อง บนพื้นฐานของพล็อตเรื่องที่แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย ดำเนินเรื่องราวไปตามแนวทางของสูตรสำเร็จแบบล้วน ๆ เซอร์ไพรส์อีกอย่างก็คือได้เห็น “อีวา ลองโกเรีย” มารับหน้าที่กำกับหนังเรื่องนี้ ถือว่าประหลาดใจเบา ๆ เพราะฝีมือของเธอก็ดีไม่น้อยเหมือนกันนะ ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ใช่งานกำกับที่สมบูรณ์ในทุกองค์ประกอบอ่านต่อ

มหา’ลัยเหมืองแร่

มหาวิทยาลัยอาจไม่ใช่ที่ที่ประสบความสำเร็จสำหรับนักศึกษาทุกๆ คน บางคนอาจจะผิดพลาด ผิดหวังกับชีวิตการเรียนในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะมาจากความไม่ตั้งใจของตัวเอง หรือความผิดพลาดบางประการในชีวิตก็ตาม แต่สำหรับชีวิตของคนๆ หนึ่งที่เคยประสบความล้มเหลวในการเรียนมหาวิทยาลัยนั้น เป็นความรู้สึกที่เลวร้ายมากเสียจนอดที่จะหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้เลยจริงๆ มันเป็นความรู้สึกที่ผิดหวังกับตัวเองล้มเหลว เหลวแหลกสุดๆ ไม่เหลือซึ่งคุณค่าใดๆ ในชีวิตอีกแล้ว เพราะแม้แต่หน้าที่ในการเรียนเพียงอย่างเดียวก็ยังทำให้สำเร็จไม่ได้ แล้วจะไปทำอะไรสำเร็จได้ในชีวิตกันล่ะ มันบังเกิดความรู้สึกนั้นขึ้นมาจริงๆ เรื่องย่อ : มหา’ลัยเหมืองแร่ เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘อาจินต์’ นักศึกษาหนุ่มคณะวิศวกรรม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งที่ถูกรีไทร์ออกจากมหาวิทยาลัย ถือว่าเป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดของชีวิตเขาเลย เขามุ่งหน้าสู่เมืองแร่ที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งแสนไกลและทุรกันดารเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งเป็นยุคสมัย พ.ศ. 2492 ที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึงพื้นที่ชนบทนั้น เป็นชีวิตที่ช่างยากลำบากแสนสาหัสมากจริงๆ ไม่มีแม้กระทั่งเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ ใช้ชีวิตอยู่ในป่าที่แสนสงบเงียบ ไร้ความรื่นเริงบันเทิงใจให้พักผ่อนอีก ไม่รู้ว่ามันจะทั้งลำบากลำบนและเหงาแค่ไหนกันนะ เรื่องราวในภาพยนตร์นั้นถ่ายทอดชีวิตของคนในเหมืองมาเรื่อยๆ และเรียบง่ายมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าน่าเบื่อแต่อย่างใด เพราะมีจุดที่ทำให้รู้สึกสนุกขบขันสอดแทรกเข้ามาได้อย่างลงตัว ซึ่งชีวิตคนเหมืองก็ออกแนวไปทางสำมะเลเทเมาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นระดับกรรมกร หรือระดับเจ้านาย เพราะด้วยวิถีชีวิตที่ทำงานหนัก เจอแต่สิ่งเดิมๆ ซ้ำซาก ขาดความบันเทิงใจ การดื่มเมามายกับเพื่อนฝูงจึงเป็นอะไรที่น่าจะปลอบประโลมใจที่แสนเหว่ว้าให้ยังอยากมีชีวิตอยู่ได้ดีที่สุดแล้ว แต่มีพบก็ต้องมีจาก…แม้ตอนจบดูเหมือนว่าจะต้องพบเจอกับความล้มเหลวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเป็นความน่าภาคภูมิใจที่เหมือนว่าอ่านต่อ

I Wanna Dance with Somebody

ถึงคิวของอีกหนึ่งดีว่าในตำนาน ที่ใคร ๆ ก็ยกให้เธอผู้เป็น “แม่” สุดยอดนักร้องเสียงทรงพลังแห่งยุค กับชีวิตที่พุ่งขึ้นสูงสุดและดิ่งลงต่ำสุดในช่วงเวลาแห่งความโด่งดัง นี่คือ “I Wanna Dance with Somebody ชีวิตมหัศจรรย์…วิทนีย์ ฮุสตัน” ตีแผ่ชีวประวัติของนักร้องหญิง “วิทนีย์ ฮุสตัน” เจ้าของเพลงดังอมตะติดหูมากมาย นับว่าเป็นอีกหนึ่งชีวิตของตำนานคนเพลงที่ถูกนำมาขึ้นจอ ท่ามกลางยุคที่หนังแนว ๆ ทยอยสร้างมาเรื่อย ๆ ว่าแต่เรื่องนี้จะยังสร้างเสน่ห์และมนต์ขลังได้หรือไม่? เพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ที่ได้รับฉายาว่า The Voice เธอคนนั้นคือ วิทนีย์ ฮุสตัน ผู้ที่หลายคนสามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเธอคือ ราชินีสุดยิ่งใหญ่แห่งวงการเพลง จากการสร้างสถิติในการกวาดรางวัลบนเวทีประกาศรางวัลของวงการนี้มากมาย และนี่คือเส้นทางแห่งห้วงชีวิตอันแสนมีเวลาจำกัดของเธอผู้นี้ ทั้งสุข ทั้งทุกข์ ทั้งหลากหลายอารมณ์กับเส้นทางในวงการเพลง จากนักร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์เล็ก ๆ มาเป็นซูเปอร์สตาร์ดาวจรัสระดับโลก ที่มีเสียงอันทรงพลังที่โลกจำไม่ลืม คงจะต้องร้อยเรียงกันแบบตรงไปตรงมาว่า I Wanna Dance with Somebody เป็นหนังชีวประวัตินักร้องชื่อดังเรื่องหนึ่ง ที่น่าเสียดายไปสักหน่อยอ่านต่อ

Dog Gone

เหมือนมาได้ถูกจังหวะกับช่วงเทศกาลวันเด็กแห่งชาติในเมืองไทยจริง ๆ กับหนังครอบครัวผจญภัยเรื่องใหม่ของเน็ตฟลิกซ์ ที่ชื่อว่า “Dog Gone หมาหลง” ที่อาจจะเป็นแค่เพียงหนังฟอร์มเล็ก ๆ ที่เชื่อมโยงเกี่ยวกับความผูกพันและแสนรู้ของเจ้าตูบสี่ขาในป่ากว้าง ออกมาเป็นหนังครอบครัวที่เหมาะกับการเปิดดูในช่วงนี้ เพราะสามารถสร้างอรรถรสความสนุกได้ดีทั้งบ้านแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก Dog Gone หมาหลง ดัดแปลงสร้างมาจากหนังสือ Dog Gone: A Lost Pet’s  ของ พอลส์ ทูทองฮี ที่สร้างมาจากเรื่องจริง เรื่องราวของชายหนุ่มกับสุนัขคู่ใจพลัดหลงกันบนเส้นทางเดินเขาแอปปาเลเชียน เขาและพ่อจึงเริ่มต้นออกค้นหาอย่างไม่ลดละก่อนที่จะสายเกินไป นี่คือผลงานที่สร้างจากเรื่องจริงสุดเหลือเชื่อเกี่ยวกับมนุษยธรรมและความกล้าหาญในชีวิตประจำวัน ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพราะว่า Dog Gone เป็นหนังที่มาพร้อมกับสูตรสำเร็จแบบที่คุ้นเคย ตามสไตล์หนังฟีลกู้ดที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่แสนผูกพัน แต่เพราะสิ่งนี้นี่เองทำให้หนังเรื่องเป็นหนังที่ย่อยได้ง่าย และดูเพลินได้อย่างสบาย ๆ ผู้ชมสามารถเอ็นจอยไปกับเจ้าก็องเกอร์ในหนังได้ดี หนังดำเนินเรื่องราวไปแบบง่าย ๆ ไม่ต้องคิดอะไร แบบหนังฝรั่งสักเมื่อ 10-20 ปีก่อน ที่มีเพียงเรื่องราวกระจิดริด แต่เต็มไปด้วยสารที่ตรงไปตรงมาดี ข้อความของหนังเรื่องนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัยจริง ๆ เพราะว่านี่คือหนังที่ตั้งคำถามกับทุก ๆอ่านต่อ