รีวิวซีรีส์ Chimera คิเมร่า (2021)
ได้เวลานักสืบโซเชียลต้องกุมหัวไปกับการตามล่าฆาตกรต่อเนื่องคนใหม่ใน Chimera ซีรีส์เรื่องใหม่จากช่อง OCN เจ้าพ่อแห่งวงการสืบสวนสอบสวนที่หลายคนรู้จักดี ทว่าครั้งนี้มาพร้อมกับการเล่าเรื่องที่แปลกแหวกแนวไปจากเดิม นำสัตว์ในปกรณัมกรีกมาผสมผสานกับวิธีการสังหารเหยื่อโดยมีวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง เปิดตัวสองตอนแรกแม้จะไม่เปรี้ยงปร้างมากนักแต่อยากชวนทุกคนไปสัมผัสกับความลึกลับตื่นเต้นรูปแบบใหม่ในรีวิวฉบับนี้ ที่มาของการเรียกคดีดังกล่าวว่า คิเมร่า อ้างอิงจากสัตว์ประหลาดในปกรณัมกรีกที่มีหัวเป็นสิงโต มีลำตัวเป็นแพะ และมีหางเป็นงู ตามตำนานกล่าวว่าสัตว์ชนิดนี้เข่นฆ่าผู้คนด้วยลมหายใจเพลิง นั่นจึงทำให้ฆาตกรฆ่าเหยื่อด้วยการเผาทั้งเป็นด้วยการนำความรู้เกี่ยวกับสารเคมีมาใช้ ลักษณะการสังหารคือการอัดออกซิเจนเข้าไปในรถหรือพื้นที่ปิดแล้วทิ้งไฟแช็กหรือสิ่งอื่นใดที่มีคุณสมบัติเป็นตัวจุดประกายไฟทำให้พื้นที่ดังกล่าวเกิดระเบิด และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวฆาตกรมักจะทิ้งร่องรอยผ่านวัตถุหรือภาพวาดที่มีรูปคิเมร่าเป็นลายเซ็นประจำตัวอยู่เสมอ ดูเหมือนฆาตกรจะกลับมาคิดบัญชีกับทุกคนที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในปี 1984 เพราะหลังจากเก็บซนวานกีซึ่งเป็นเหยื่อรายแรกได้สำเร็จ ฆาตกรเดินหน้าสะสางเหยื่อรายต่อไปอย่างไม่รีรอ ครั้งนี้ถึงคิวของ ฮันจูซอก (รับบทโดย คังชินอิล) หัวหน้าหน่วยอาชญากรรมรุนแรงซึ่งเป็นหนึ่งในตำรวจที่เคยสืบคดีเดียวกันเมื่อ 35 ปีก่อน การตายของฮันจูซอกเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ชาแจฮวานเกิดความคับแค้นและต้องการตามล่าฆาตกรให้ได้โดยเร็ว ไม่ใช่เพราะฮันจูซอกเป็นหัวหน้างานเพียงเท่านั้น หากแต่ยังเป็นพ่อแท้ ๆ ของเขานั่นเอง ในการสืบคดีครั้งนี้บัดดี้คนสำคัญของชาแจฮวานที่มีเป้าหมายในกรตามล่าฆาตกรคนเดียวกันนั่นคือ ยูจีน แฮธทาเวย์ (รับบทโดย คลอเดีย คิม) หญิงสาวชาวเกาหลีที่ได้รับการอุปการะจากพ่อแม่ชาวอเมริกันตั้งแต่ยังเด็ก ปัจจุบันเธอเป็นนักวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรและทำงานให้กับ FBI ระหว่างการสืบคดีทั้งคู่พบเบาะแสบางอย่างที่ทำให้การสืบสวนพุ่งเป้าไปที่ อีจุงยอบ (รับบทโดย อีฮีจุน) ศัลยแพทย์จากอังกฤษที่เข้ามาพัวพันกับคดีลึกลับจนตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่เขาจะใช่ฆาตกรตัวจริงหรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไปแบบห้ามกระพริบตา อย่างที่ทราบกันว่านักแสดงนำเรื่องนี้ล้วนแต่เป็นแนวหน้าในวงการด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพระเอกอ่านต่อ