วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์

Hacksaw Ridge ชื่อไทยว่า วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์ เป็นภาพยนตร์แนวสงคราม-ดราม่าที่ออกฉายในปี 2016 นำแสดงโดย Andrew Garfield ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ Desmond Doss (Garfield) พลทหารอเมริกันที่ปฏิเสธที่จะถืออาวุธและฆ่าคนแม้ว่าเขาจะอยู่ในสงครามโลกครั้งที่สอง แม้เขาจะถูกกลั่นแกล้งและรังเกียจจากเพื่อนทหาร แต่ Doss ก็ยืนกรานตามความเชื่อของเขาและพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นฮีโร่ในสนามรบ เรื่องย่อ : Hacksaw Ridge | วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์ ในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1945 ในตอนที่สงครามภาคพื้นแปซิฟิคกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายที่อันตรายที่สุด และกองกำลังของอเมริกาในโอกินาวาได้เผชิญหน้ากับการสู้รบที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมา มีทหารคนหนึ่งที่โดดเด่นจากพวก เขาคือ เดสมอนด์ ที. ดอสส์ (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) ผู้คัดค้านโดยอ้างมโนธรรม ผู้แม้จะสาบานว่าจะไม่ฆ่าใคร ได้ทำหน้าที่แพทย์สนามที่ไร้อาวุธในกองทัพอย่างกล้าหาญ และเขาก็ได้ช่วยรักษาชีวิตเพื่อนทหารที่บาดเจ็บของเขาหลายสิบชีวิตภายใต้ห่ากระสุน โดยไม่ลั่นกระสุนแม้แต่นัดเดียว ในฐานะหนึ่งในสมาชิกนิกายเซเวนธ์ เดย์ แอดเวนทิสต์ ผู้มีศรัทธาแน่วแน่ ดอสส์ ใช้ชีวิตอยู่ในเวอร์จิเนียในตอนที่เขาอาสาเข้ารับใช้กองทัพอเมริกา เขาไม่สนใจเรื่องการต่อสู้ แต่ ดอสส์อ่านต่อ

หน่วยพิฆาต ระห่ำกู้โลก

“ถ้าคุณไม่พร้อมที่จะเสียสละ คุณก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง” “Movie of the Day” เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยปฏิบัติการที่เข้มข้นขึงขังกับการแทรกซึมเข้าไปอยู่ในหน่วยซีล กับหนังแอคชั่นสุดมันส์ “Act of Valor” (หน่วยพิฆาต ระห่ำกู้โลก) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแอคชั่นภารกิจทหารที่เต็มไปด้วยความสมจริงเรื่องหนึ่งที่เคยสร้างมาเลยทีเดียว เรื่องย่อ : Act of Valor | หน่วยพิฆาต ระห่ำกู้โลก เรื่องราวของหน่วยซีลที่ได้รับคำสั่งให้ไปทำภารกิจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของซีไอเอที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และได้รับเบาะแสสำคัญของแผนการณ์ก่อการร้ายของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่จะโจมตีสหรัฐอเมริกา พวกเขาจึงออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อหยุดยั้งพวกมัน ในขณะที่ทีมปฏิบัติการณ์พิเศษในชื่อรหัสแบนดิโต้พยายามหยุดยั้งการโจมตีของ พวกผู้ก่อการร้ายที่อาจสังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ชาวอเมริกันนับร้อยนับพันชีวิต พวกเขาก็ต้องชั่งน้ำหนักความสำคัญของการรับใช้ชาติ, ความสัมพันธ์ของลูกทีมทุกคนในหน่วยฯ และชีวิตครอบครัวที่รอพวกเขาอยู่ที่บ้าน เมื่อใดก็ตามที่ทำภารกิจเสร็จสิ้นไปหนึ่ง ก็จะมีข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาเพื่อแจ้งให้ทราบว่าแผนการณ์ชั่วร้ายของพวกมันยังไม่หมดเพียงแค่นี้แน่ ซึ่งกระจายไปจากเชชเนียจนถึงฟิลิปปินส์ และจากยูเครนไปจนถึงโซมาเลีย และปฏิบัติการณ์ของพวกเขาก็กระจายไปทั่วโลกเพื่อแกะรอยความเคลื่อนไหวของพวก มันจนถึงรังของพวกมันในบริเวณพื้นที่ชายแดนระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก ซึ่งเหล่าทหารผู้กล้าจะต้องต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายที่คิดที่จะสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่ออเมริกาได้โดยตรง ภาพความรักชาติของชาวอเมริกานั้นถูกนำมาเสนอในรูปของภาพยนตร์มากมาย ราวกับเป็นแผนการโฆษณาของประเทศมหาอำนาจว่า “พวกกูทุกคนยอมตายเพื่อชาติ ไม่ว่ามึงจะทำอะไร กูรู้หมด และจะจัดการมึงได้อย่างทันท่วงที เพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งกับกู” ซึ่งมีอยู่อย่างเต็มเปรี่ยมในหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะประเทศตะวันออกกลาง หากประเทศใดร่วมด้วยก็จะช่วยเหลือ หากไม่ร่วมก็จะคว่ำบาตร ซึ่งเป็นการสกัดกั้นอำนาจของสหภาพโซเวียตและอำนาจคอมมิวนิสต์อ่านต่อ

เฒ่ามหากาฬ

เป็นหนังที่ได้ยินเสียงร่ำลือมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว นี่คือหนังแอคชั่นที่เขาว่า…เดือดจัด “Sisu สิสู้ เฒ่ามหากาฬ” หนังจากฟินแลนด์ที่ใคร ๆ บอกว่าบู๊แบบหนำใจ สไตล์พูดน้อยต่อยหนัก แม้ว่าจะมาพร้อมกับทีมงานและนักแสดงที่แทบจะไม่ได้คุ้นเคยในระดับสากลเลย แต่งานสร้างและการเล่าเรื่องกลับเข้าถึงคนดูวงกว้างได้อย่างน่าทึ่ง เรื่องย่อ : Sisu | สิสู้ เฒ่ามหากาฬ Sisu สิสู้ เฒ่ามหากาฬ เป็นเรื่องราวของอดีตทหารได้ขุดค้นพบขุมทองในพื้นที่อันรกร้างในภูมิภาคแลปแลนด์ และเขาพยายามที่จะเดินทางนำเอามันไปขายที่ธนาคารในเมือง แต่ระหว่างทางเหล่าทหารนาซีที่นำโดยเจ้าหน้าที่หน่วยเอสเอสจอมโหดก็มาขวางทางและเปิดฉากต่อสู้กับเขา สัญชาตญาณนักสู้ไม่ถอยของเขาได้กลับมาพลุ่งพล่าน สามารถรีวิวหนังเรื่องนี้ออกมาได้สั้น ๆ เลยว่า…มันส์มาก เป็นหนังที่มีพล็อตอยู่แค่หยิบมือเดียว แต่สาธยายออกมาเป็นหนังแอคชั่นสุดโหดที่มีความยาว 90 นาทีได้สาแก่ใจอีช้อยยิ่งนัก ตัวหนังไม่ต้องเอาสาระหรือเนื้อหาอะไร เพราะดูเอามันส์ก็เพียงพอและคุ้มค่าตั๋วแล้ว นี่คือหนังจากฟินแลนด์ของผู้กำกับท้องถิ่น ”ยาลมารี เฮแลนเดอร์” ที่มีประสบการณ์สร้างหนังในวงการหนังที่นั่นมานับสิบ ๆ ปีแล้ว และ Sisu สิสู้ เฒ่ามหากาฬ ก็ถือหนังที่พูดน้อยและต่อยหนักแทบจะทุกองค์ประกอบงานสร้าง ว่ากันถึงบทหนังที่บอกไปแล้วแทบจะไม่ต้องพึงพาความซับซ้อนใด ๆ เลย เพราะหนังไม่จำเป็นต้องใช้การสนทนามาเอื้อนเอยใดอ่านต่อ

ปลี่ยนองค์ชายเย็นชาเป็นยาจกแสนซื่อ

“จู่ๆองค์รัชทายาทก็หายตัวไปและกลับมาพระราชวังอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไป 100 วัน ระหว่างช่วงเวลานั้นเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ ?” 100 Days My Prince เป็นซีรีส์ที่ถือว่าประสบความสำเร็จสูงในช่วงที่ออกอากาศ และถือว่าเป็นซีรีส์ทำเรตติ้งได้เป็นอันดับ 8 ของประวัติศาสต์เคเบิ้ลทีวีเกาหลี (นับเวลาปัจจุบันปี 2020 อันดับที่ 1 คือ The World of the Married เรตติ้ง 28.3%) โดยตอนจบของเรื่องนี้โกยเรตติ้งไปถึง 15.1 % เลยทีเดียว เรื่องย่อ : เปลี่ยนองค์ชายเย็นชาเป็นยาจกแสนซื่อ เรื่องราวขององค์รัชทายาท“อียูล” (โดคยองซู) หรือ(ดีโอ วงเอ็กโซ)ที่ได้รับบาดเจ็บจนความจำเสื่อม จนชีวิตตกผกผันทำให้เขากลายเป็น “วอนดึก”หนุ่มสามัญชนคนธรรมดาที่ไม่เอาไหน เป็นเวลานานถึง 100 วัน แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วองค์รัชทายาทไม่ได้เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขายังถูกลอบปลงพระชนม์จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดทำให้ความทรงจำช่วงร้อยวันนั้นของเขาได้หายไป เลยเป็นเหตุให้เจ้าชายอียูลได้มาพบกับสาวโสดอายุมากที่สุดในโซซอนอย่าง”ฮงซิม”(นัมจีฮยอน)หญิงสาวผู้ชาญฉลาดและทำงานในสำนักสืบสวน เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับหนุ่มที่ไม่มีอะไรดีอย่าง วอนดึกและยิ่งเธอผลักไสเขาให้ไกลออกไปเท่าไหร่ เธอกลับยิ่งมองเห็นความดีในตัวของเขามากขึ้นเท่านั้น ตัวละครหลัก โดคยองซู รับบทอ่านต่อ

หนังสงครามโลกครั้งที่ 2

แม้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะผ่านมาเกือบ 80 ปีแล้ว แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกก็ยังคงสร้างหนังเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ออกมาเรื่อย ๆ และส่วนใหญ่แล้ว ‘นาซีเยอรมัน’ ก็มักจะได้บทตัวร้ายในหนังอยู่เสมอ แม้กระทั่งเรื่องนี้ Blood & Gold หนังที่สร้างโดยเยอรมันเองก็ตาม แล้วก็เป็นการเลือกหยิบแง่มุมเล็ก ๆ ในช่วงปลายสงครามมาเล่าได้อย่างน่าสนใจ เรื่องย่อ : Blood & Gold | หนังสงครามโลกครั้งที่ 2 เล่าเรื่องราวของ ‘ไฮน์ริช’ อดีตทหารนาซีหนีทัพ ที่รอดชีวิตจาการถูกแขวนคอมาได้ เพราะ ‘เอลซา’ สาวชาวไร่ช่วยชีวิตเขาไว้ แล้วนาซีหน่วยเดียวกันนี้ก็ลักพาตัว ‘พอล’ น้องชายของเอลซาไป ทำให้ไฮน์ริชและเอลซาต้องตามมาที่หมู่บ้านที่กองทหารนาซีมาตั้งทัพ เพราะหมู่บ้านนี้มีทองแท่งจำนวนมากที่ครอบครัวชาวยิวทิ้งเอาไว้ กลายเป็นความอีรุงตุงนัง ที่ชาวบ้านและทหารนาซีพยายามจะแย่งชิงทองกัน ขณะเดียวกันไฮน์ริชและเอลซาก็พยายามแก้แค้นเอาคืนกับเหล่าทหารนาซีจอมโฉด แม้จะเป็นหนังแอคชั่นที่ดุเดือดเลือดสาด แต่ก็ยังพอมีมุกแทรกอยู่บ้างประปรายแต่กระนั้นก็ยังเป็นตลกร้าย ที่เล่นล้อกับความตาย ไม่ได้ชวนให้ยิ้มตามเลย แต่ก็ชวนให้ช็อตฟีลว่าเล่นกันแบบนี้เลยเหรอ Blood &อ่านต่อ

Narvik

นังสงครามโลกครั้งที่ 2 จากฝีมืองานสร้างฝั่งยุโรปกำลังเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจ อีกหนึ่งเรื่องที่เพิ่งพรีเมียร์ฉายทั่วโลกมาล่าสุดก็คือ “Narvik” หนังนอร์เวย์ที่หยิบเอาหนึ่งในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมาขึ้นจอ ออกมาเป็นหนังสงครามดราม่าเชิงกลยุทธ์สงครามที่คล้ายกับการผนึกกำลังกันช่วยปลดแอกพื้นที่ กลายเป็นหนึ่งวีรกรรมเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ในสงครามครั้งนี้ Narvik เล่าเรื่องราวเหตุยุทธการในเมืองนาร์วิค ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ในเดือนเมษายน 1940 ช่วงเวลาแค่ความเข้มข้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศที่พยายามตั้งตนเป็นกลางในสงครามความขัดแย้งครั้งนี้ แต่เมืองตกเป็นเป้าสายตาเพราะเป็นพื้นที่ที่กองกำลังฮิตเลอร์ใช้แร่เหล็กนำไปสร้างเป็นอาวุธ ผู้หญิงหนึ่งคนกับการต่อสู้ตลอดระยะเวลาสองเดือนของพวกเขาท่ามกลางความเย็นยะเยือก จุดประกายให้ฮิตเลอร์ได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก   นี่คือผลงานการกำกับของ “เอริค เซียลด์เบิร์ก” จากหนังดังในยุค 90s อย่าง Insomnia ที่เป็นงานแจ้งเกิดให้กับเขา แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ติดตามดูผลงานของเขาและหนังนอร์เวย์เป็นประจำสักเท่าไหร่ แต่งานสร้างในหนัง Norvik เรื่องนี้ถือว่าใช้ได้ตามมาตรฐานของหนังชาตินี้ มุมภาพและมุมกล้องต่าง ๆ อาจจะไม่ได้หวือหวาอะไร แต่การร้อยเรียงเล่าเรื่องราวของหนังนั้นก็ถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างดี บทหนังและการลำดับเรื่องราวในหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าหนังจะเล่าไปตามไทม์ไลน์เรื่อย ๆ แบบไม่ซับซ้อน โครงการสร้างหนังไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร บางทีอาจจะค่อนข้างผิวเผินไปด้วยซ้ำ แต่ยังดีที่ความทรงพลังในเรื่องราวของหนังยังเป็นปีกที่แข็งแกร่งให้กับหนังเรื่องนี้ อีกทั้งยังดีที่หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องได้ค่อนข้างกระช้บ ไม่ยืดเยือเกินเหตุ เป็นหนังที่มีระยะเวลาแค่ชั่วโมงเศษ ๆ เพียงพอต่อการไล่เรียงลำดับเรื่องได้อย่างเหมาะเจาะดีแล้วอ่านต่อ

Devotion"

ปี 2022 ทั่วโลกต่างปรบมือกึกก้องให้กับภาคต่อ Top Gun: Maverick ที่ทำให้กระแสความเท่ของทหารอากาศกลับมาเรืองรองอีกครั้ง ก็ยังมีหนังกระบวนการรบของนักบินอีกเรื่องที่ลงจอฉาย แม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้มาฉายในโรงหนังบ้านเรา แต่ล่าสุด “Devotion” ก็ได้ฤกษ์ลงจอฉายอย่างเป็นทางการในรูปแบบสตรีมมิ่งให้ได้ดูกันแล้ว และนี่คืออีกหนึ่งหนังสงครามการต่อสู้ทางอากาศในรอบปีที่ผ่านมา หนังเรื่องนี้ดัดแปลงสร้างมาจากหนังสือเชิงสารคดีของ “อดัม มาคอส” นักวิชาการที่ศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางการทหาร ที่เขียนหนังสือชื่อเดียวกับหนังเรื่องนี้ออกตีพิมพ์ในปี 2015 และกลายเป็นผลงานขายดีอีกเล้มของเขา โดยได้ 2 นักเขียนหน้าใหม่ “เจค เครน” กับ “โจนาธาน สจ๊วต” มารับหน้าที่ดัดแปลงเขียนบทให้ ซึ่งน่าเสียดายที่บทหนังของเรื่องนี้ยังค่อนข้างเต็มไปด้วยจุดบกพร่องและขาดความคมคายอยู่ค่อนข้างมาก “เจ.ดี. ดิลลาร์ด” จาก Sleight มารับหน้าที่ดูแลงานสร้างให้ แต่ต้องยอมรับว่าแม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์ทำหนังมาพอประมาณแล้วก็ตาม แต่ Devotion น่าจะเป็นหนังสเกลงานสร้างที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยรับมือมา นั่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เขายังไม่สามารถแบกรับหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างราบรื่นได้มากนัก หนังแอคชั่นดราม่าเรื่องนี้จึงออกมาเป็นหนังรสชาติจืดชืดไปอย่างน่าผิดหวัง หากใครที่เห็นหน้าหนัง ทั้งโปสเตอร์และตัวอย่างหนัง อาจจะต้องบอกแต่เนิ่น ๆ เลยว่า นี่ไม่ใช่หนังแอคชั่นสงครามทำการบินยิงระห่ำแบบที่คุณคิดเอาไว้ เพราะหนังเรื่องนี้ถือเป็นการสดุดีให้กับทหารผู้กล้า ทหารผู้เป็นดำเนิน ที่ร้อยเรียงเรื่องราวทั้งเรื่องด้วยพลังแห่วความรักล้วนอ่านต่อ

All Quiet On the Western Front

เราอาจจะเคยเห็นได้ดูหนังสงครามที่สร้างออกมาเรื่อย ๆ ในทุกปี แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นหนังสงครามที่มาจากมุมมองพลทหารฝั่งเยอรมันกันบ่อยนัก และ “All Quiet On the Western Front แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง” ก็ถือว่าเป็นหนังสงครามเยอรมันที่มักจะถูกหยิบมาสร้างหนังบ่อย ๆ เพราะมันสะท้อนถึงการต่อต้านสงครามจากผลกระทบทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่นำมาสร้าง All Quiet on the Western Front เล่าเรื่องราวน่าติดตามของหนุ่มนายทหารเยอรมันบนสมรภูมิรบแนวหน้าด้านตะวันตกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 พอลและสหายผู้ร่วมรบได้พบประสบการณ์ตรงของความรู้สึกสนุกตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมรบในตอนแรก ก่อนแปรเปลี่ยนกลายเป็นความรู้สึกสิ้นหวังและหวาดกลัว เมื่อต้องต่อสู้เพื่อรักษาทั้งชีวิตของตัวเองและเพื่อนๆ ให้รอดในสนามเพลาะ นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทของ “เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์” ผู้กำกับชื่อดังชาวเยอรมัน ที่เคยแจ้งเกิดจากเรื่อง Jack เมื่อหลายปีก่อน โดยหนังเรื่องนี้ดัดแปลงสร้างมาจากนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ “เอริช มาเรีย เรอมาร์ค” ที่ถือว่าเป็นผลงานเขียนชิ้นเอกแนวต่อต้านสงครามของเขา และจัดได้ว่าวรรณกรรมคลาสสิกเล่มหนึ่งของเยอรมันเลยทีเดียว หนังสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงคราม กับฉากหลังที่เป็นช่วงปลายยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ในยุคนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นของเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ ที่อยากจะท้าทายตัวเองในการลงสู่สมรภูมิ แต่เมื่อลงสนามจริงไปแล้วพวกเขากลับต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน โดยเฉพาะความโหดร้ายที่ต้องฝ่าดงกระสุนนับไม่ถ้วนอ่านต่อ

Six Minutes to Midnight

มาถึงคิวของหนังดราม่าอิงประวัติศาสตร์แบบฉบับที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย และนี่คือ “Six Minutes to Midnight” (รหัสลับ พลิกสมรภูมินรก) หนังสงครามโลกที่เล่าเรื่องผ่านมุมมองภารกิจลับจากทางฝั่งอังกฤษ ที่เป็นเหตุการณ์ที่เปิดชนวนก่อนจะศึกจะปะทุขึ้น และนี่ยังเป็นหนังที่ได้ทัพนักแสดงชั้นแนวหน้าจากเมืองผู้ดี ตบเท้ามาประชันบทบาทกันแบบคืนกำไรให้ผู้ชม Six Minutes to Midnight รหัสลับ พลิกสมรภูมินรก เล่าเรื่องราวของ โธมัส มิลเลอร์ รับหน้าที่เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ให้กับบรรดาลูกสาวของชนชั้นนำพรรคนาซี ที่โรงเรียนออกัสตา-วิคตอเรีย ย่านเบ็กซ์ฮิลล์ ออน ซี ทางชายฝั่งตอนใต้ของอังกฤษ ภายใต้การควบคุมของอาจารย์ใหญ่ มิสร็อกฮอลล์ และผู้ช่วยคนสนิท อิสเซ่ เคลเลอร์ หลังอาจารย์คนเก่าหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา นำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่อาจไว้วางใจใครได้ โธมัสต้องทำทุกทางเพื่อหยุดอันตรายครั้งสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในโรงเรียนแห่งนี้ ถือได้ว่าหนังเรื่องนี่เป็นการหยิบเอาเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของหน้าประวัติศาสตร์ ในช่วงจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 มาตีแผ่และเล่าออกมาในสไตล์หนังดราม่าสายลับชวนลุ้นระทึก ที่ประเด็นนี้น่าจะเป็นปฏิบัติการเล็ก ๆ ที่คนทั่วไปแทบจะไม่เคยรู้จักเสียด้วยซ้ำว่ามีอะไรแบบนี้อยู่ด้วย เพราะมันเป็นเพียงภารกิจวงแคบ ๆ แต่ส่งผลกระทบที่สำคัญระหว่างความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับเยอรมันในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออ่านต่อ

The Greatest Beer Run Ever

และนี่คือก็หนังสงครามที่เคยเป็นกระแสและข่าวให้พูดถึงเมื่อปลายปีที่แล้ว เพราะเรื่องนี้ได้ยกกองถ่ายมาทำถ่ายทำในเมืองไทยเป็นหลัก นี่คือ “The Greatest Beer Run Ever” หนังที่ได้แรงบันดาลใจสร้างมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นระหว่างสมรภูมิสงครามเวียดนาม ที่มาพร้อมกับทีมนักแสดงและทีมงานผู้สร้างระดับแนวหน้า ที่แน่นอนว่านี่คือหนังผจญสงครามที่น่าจะทำให้คนดูประทับใจได้ไม่ยากเลย The Greatest Beer Run Ever เป็นเรื่องราวในปี 1967 ช่วงระหว่างที่สหรัฐอเมริกาส่งกองทัพไปร่วมทำสงครามในเวียดนาม ชัคกี้ โดโนฮิว เป็นหนุ่มชาวนิวยอร์ก ที่เพื่อน ๆ ละแวกบ้านของเขาหลายคนเข้าร่วมกองทัพและถูกส่งตัวไปทำสงครามครั้งนี้ ในขณะที่เขายังเรื่อยเปือยและใคร ๆ ก็มองว่าไม่เอาถ่าน ก่อนที่เขาจะตัดสินใจสุดบ้าบิ่น ด้วยการรับภารกิจแบกเบียร์กระป๋องใส่กระเป๋าลงเรือข้ามทวีป เพื่อไปส่งมอบให้กับเพื่อน ๆ ของเขาที่อยู่ในสมรภูมิรบ กับปฏิบัติการตัวคนเดียวที่น่าเหลือเชื่อ แต่มันได้เกิดขึ้นกับเขาแล้วจริง ๆ นี่คือผลงานชิ้นล่าสุดของผู้กำกับ “ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี่” ผู้สร้างหนังเจ้าของรางวัลออสการ์ อย่าง Green k ที่ยังคงพกสายเส้นและจังหวะการเล่าเรื่องสไตล์ทะมัดทะแมง พร้อมกับอินเนอร์ตลกร้ายเข้ามาในหนังได้อย่างหอมปากหอมคอ เขายังร่วมเป็นหนึ่งในทีมดัดแปลงเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย โดยหยิบเอาบันทึกเรื่องจริงของ ชัคกี้ โดโนฮิว มาร้อยเรียงเป็นภาพออกมาในหนังสงครามเรื่องนี้อ่านต่อ